Know your kid – ISSUE 7
“เหนื่อยนักก็พักซะ”
คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตตัวเองดูไหมครับว่าตั้งแต่มีเจ้าตัวเล็กนี้ รู้สึกมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้นเป็นกอง ไหนจะเรื่องงาน ไหนจะเรื่องบ้าน โดยเฉพาะเรื่องเจ้าตัวเล็ก ตั้งแต่เขาแบเบาะก็ไม่ค่อยมีเวลาได้นอน เข้าโรงเรียนได้หน่อยก็ต้องไปรับไปส่งลูก ไหนจะเรียนพิเศษ เสริมนั่นเสริมนี่ เวลาว่างแทบจะไม่มี แล้วเวลาที่คุณสองคนจะเป็นส่วนตัวนั้นไม่ต้องพูดถึงมันเลยดีกว่า มันทำให้ดูเหมือนชีวิตจะจืดชืดลงไปไหมครับ
ก็ใครกันล่ะครับให้คุณเป็นแบบนี้ ตัวคุณเองหรือเปล่า คุณคิดว่าคุณกำลังจริงจังกับการเป็นพ่อเป็นแม่มากไปไหม จริง ๆ แล้วลูกจะอุ่นใจมากถ้าได้อยู่ใกล้คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็จริงครับ แต่หากคุณเหนื่อย เมื่อยล้าจริง ๆ ผมแนะนำว่าคุณควรเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาชื่นชมลูกของคุณบ้าง อาจจะเป็นคุณปู่คุณย่า หรือคุณตาคุณยาย เพื่อนสนิท หรือใครก็ตามที่เราสามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้ครับ ไม่ผิดหรอกครับที่คุณจะหาเวลาให้ตัวเองบ้างและชีวิตคู่ของคุณบ้าง คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคร่ำเครียดกับลูกมากเกินไป เด็ก 3 ขวบบางคนถูกโดนจัดกรอบในเรื่องของเวลา มารยาท เสมือนหนึ่งเป็นเด็กโต ผมว่านั่นคือการสร้างความกดดันมากกว่า การจริงจังเป็นสิ่งที่ดีครับ หากแต่เรารู้จักปล่อยวางบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ากระทำครับ
วิธีการหนึ่งที่หลายครอบครัวในประเทศอเมริกาและในหลาย ๆ ประเทศในแถบตะวันตกนิยมทำกัน นั่นก็คือ playdate คือการนัดให้ลูกได้มีโอกาสไปเล่นกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน อาจเป็นเพื่อนที่โรงเรียนหรืออาจเป็นเพื่อนในละแวกบ้าน โดยมีพ่อแม่เด็กที่ถูกได้รับมอบหมายในครานั้นเป็นผู้ดูแล ซึ่งอาจจะเป็นการนัดกันที่บ้าน ที่สวนสาธารณะ หรือที่ไหนก็ตามแต่ และก็หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันไปในแต่ละครอบครัว ทำให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสรู้จักกันมากขึ้น และที่สำคัญทำให้พ่อแม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันหรือให้โอกาสความเป็นส่วนตัวมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่เหนื่อยไปกับงาน ก็อาจใช้จังหวะนี้งีบพักซักตื่น หรือคุณพ่อคุณแม่บางบ้านอาจใช้เวลานี้ไปทานข้าวกันสองต่อสองก็เป็นโอกาสทองในการเสริมสร้างชีวิตคู่ที่ดีไม่น้อย
แม้ว่าการทำ playdate ที่เมืองไทยยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากหลาย ๆ บ้านมีพี่เลี้ยง หรือคุณตาคุณยายคอยดูแล โอกาสนั้นก็เลยไม่ค่อยมีนัก แต่ที่ผมอยากตั้งประเด็นในวันนี้ก็คือการให้เวลากับตัวเอง และการเต็มเติมความรักให้กันและกันในชีวิตคู่ ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่เอาคำว่าลูกออกไปจากภาพก่อน แล้วมามุ่งที่การให้เวลากับตัวเอง และการให้เวลากับคู่ชีวิตและชีวิตคู่
ประเด็นแรกในเรื่องการให้เวลาตัวเองนั้น คือ การใช้เวลาไปในสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่ควรจะทำ หรือน่าจะทำ เช่น คุณแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ หลังจากที่ฝากลูกไว้กับคนไว้ใจแล้ว อาจจะออกไปทำผมซะหน่อย หรือช็อปปิ้งเล็กน้อย ไปนวดหน้า หรือเข้าสปาบ้างเพื่อผ่อนคลาย ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนสนิทบ้าง หรือหากิจกรรมโปรดทำ เป็นต้น
ส่วนประเด็นที่สองคือการให้เวลากับชีวิตคู่ ทำอย่างไรให้ชีวิตของคุณมีคู่ของคุณเข้ามาอยู่ในกรอบชีวิตด้วย ในบางครั้งเรามุ่งเป้าหมายไปที่ลูกมากจนลืมนึกถึงคนข้างกาย หรือลืมเวลาให้แก่กัน ผมเชื่ออย่างแน่วแน่ครับว่าการที่พ่อแม่มีเวลาให้กัน และมีความรักให้กัน จะเป็นกระจกสะท้อนเข้าหาลูกและครอบครัวของคุณเอง อย่าลืมครับว่าลูกของคุณนั้นกำลังมองดูพวกคุณอยู่ตลอดเวลา ถึงจะไม่ได้มองอย่างจริงจังแต่ก็ต้องสัมผัสได้ครับ ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่มีความสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน ลูก ๆ ก็จะมีความสุขไปด้วยครับ และเมื่อโอกาสและเวลาในการอยู่ด้วยกันมาถึง ให้นึกว่ามันก็เหมือนกับการที่พวกคุณออกเดทกันใหม่ ๆ เวลาเป็นแฟนกัน หรือเวลาที่คุณเพิ่งแต่งงานใหม่ ๆ ให้นึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นครับ แน่นอนครับว่าช่วงเวลาที่คุณได้อยู่กันตามลำพังอาจจะมีไม่มาก ลองใช้โอกาสนี้ออกไปทานข้าวกันสักมื้อ ดูหนังสักเรื่อง หรือทำกิจกรรมโปรดด้วยกัน แล้วหมั่นหาช่วงเวลาแบบนี้บ่อย ๆ (โดยไม่ลำบากคนอื่นนะครับ) รับรองครับคุณจะเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุดครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว