0-2370-0316-7 LINE: @RAIS

Know your kid – ISSUE 7

“เหนื่อยนักก็พักซะ”

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตตัวเองดูไหมครับว่าตั้งแต่มีเจ้าตัวเล็กนี้  รู้สึกมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้นเป็นกอง  ไหนจะเรื่องงาน  ไหนจะเรื่องบ้าน  โดยเฉพาะเรื่องเจ้าตัวเล็ก  ตั้งแต่เขาแบเบาะก็ไม่ค่อยมีเวลาได้นอน  เข้าโรงเรียนได้หน่อยก็ต้องไปรับไปส่งลูก  ไหนจะเรียนพิเศษ  เสริมนั่นเสริมนี่  เวลาว่างแทบจะไม่มี  แล้วเวลาที่คุณสองคนจะเป็นส่วนตัวนั้นไม่ต้องพูดถึงมันเลยดีกว่า  มันทำให้ดูเหมือนชีวิตจะจืดชืดลงไปไหมครับ

 

ก็ใครกันล่ะครับให้คุณเป็นแบบนี้  ตัวคุณเองหรือเปล่า  คุณคิดว่าคุณกำลังจริงจังกับการเป็นพ่อเป็นแม่มากไปไหม  จริง ๆ แล้วลูกจะอุ่นใจมากถ้าได้อยู่ใกล้คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็จริงครับ  แต่หากคุณเหนื่อย  เมื่อยล้าจริง ๆ ผมแนะนำว่าคุณควรเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาชื่นชมลูกของคุณบ้าง  อาจจะเป็นคุณปู่คุณย่า หรือคุณตาคุณยาย  เพื่อนสนิท หรือใครก็ตามที่เราสามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้ครับ  ไม่ผิดหรอกครับที่คุณจะหาเวลาให้ตัวเองบ้างและชีวิตคู่ของคุณบ้าง  คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคร่ำเครียดกับลูกมากเกินไป  เด็ก 3 ขวบบางคนถูกโดนจัดกรอบในเรื่องของเวลา  มารยาท  เสมือนหนึ่งเป็นเด็กโต  ผมว่านั่นคือการสร้างความกดดันมากกว่า  การจริงจังเป็นสิ่งที่ดีครับ  หากแต่เรารู้จักปล่อยวางบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ากระทำครับ

 

วิธีการหนึ่งที่หลายครอบครัวในประเทศอเมริกาและในหลาย ๆ ประเทศในแถบตะวันตกนิยมทำกัน  นั่นก็คือ  playdate คือการนัดให้ลูกได้มีโอกาสไปเล่นกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน  อาจเป็นเพื่อนที่โรงเรียนหรืออาจเป็นเพื่อนในละแวกบ้าน  โดยมีพ่อแม่เด็กที่ถูกได้รับมอบหมายในครานั้นเป็นผู้ดูแล  ซึ่งอาจจะเป็นการนัดกันที่บ้าน  ที่สวนสาธารณะ  หรือที่ไหนก็ตามแต่  และก็หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันไปในแต่ละครอบครัว  ทำให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสรู้จักกันมากขึ้น และที่สำคัญทำให้พ่อแม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันหรือให้โอกาสความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่เหนื่อยไปกับงาน  ก็อาจใช้จังหวะนี้งีบพักซักตื่น  หรือคุณพ่อคุณแม่บางบ้านอาจใช้เวลานี้ไปทานข้าวกันสองต่อสองก็เป็นโอกาสทองในการเสริมสร้างชีวิตคู่ที่ดีไม่น้อย

 

แม้ว่าการทำ playdate ที่เมืองไทยยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก  เนื่องจากหลาย ๆ บ้านมีพี่เลี้ยง  หรือคุณตาคุณยายคอยดูแล  โอกาสนั้นก็เลยไม่ค่อยมีนัก  แต่ที่ผมอยากตั้งประเด็นในวันนี้ก็คือการให้เวลากับตัวเอง  และการเต็มเติมความรักให้กันและกันในชีวิตคู่  ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่เอาคำว่าลูกออกไปจากภาพก่อน  แล้วมามุ่งที่การให้เวลากับตัวเอง  และการให้เวลากับคู่ชีวิตและชีวิตคู่

 

ประเด็นแรกในเรื่องการให้เวลาตัวเองนั้น  คือ การใช้เวลาไปในสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่ควรจะทำ  หรือน่าจะทำ  เช่น  คุณแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ หลังจากที่ฝากลูกไว้กับคนไว้ใจแล้ว  อาจจะออกไปทำผมซะหน่อย  หรือช็อปปิ้งเล็กน้อย  ไปนวดหน้า  หรือเข้าสปาบ้างเพื่อผ่อนคลาย  ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนสนิทบ้าง  หรือหากิจกรรมโปรดทำ  เป็นต้น

 

ส่วนประเด็นที่สองคือการให้เวลากับชีวิตคู่  ทำอย่างไรให้ชีวิตของคุณมีคู่ของคุณเข้ามาอยู่ในกรอบชีวิตด้วย  ในบางครั้งเรามุ่งเป้าหมายไปที่ลูกมากจนลืมนึกถึงคนข้างกาย  หรือลืมเวลาให้แก่กัน  ผมเชื่ออย่างแน่วแน่ครับว่าการที่พ่อแม่มีเวลาให้กัน  และมีความรักให้กัน  จะเป็นกระจกสะท้อนเข้าหาลูกและครอบครัวของคุณเอง  อย่าลืมครับว่าลูกของคุณนั้นกำลังมองดูพวกคุณอยู่ตลอดเวลา  ถึงจะไม่ได้มองอย่างจริงจังแต่ก็ต้องสัมผัสได้ครับ  ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่มีความสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน  ลูก ๆ ก็จะมีความสุขไปด้วยครับ  และเมื่อโอกาสและเวลาในการอยู่ด้วยกันมาถึง  ให้นึกว่ามันก็เหมือนกับการที่พวกคุณออกเดทกันใหม่ ๆ เวลาเป็นแฟนกัน  หรือเวลาที่คุณเพิ่งแต่งงานใหม่ ๆ  ให้นึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นครับ  แน่นอนครับว่าช่วงเวลาที่คุณได้อยู่กันตามลำพังอาจจะมีไม่มาก  ลองใช้โอกาสนี้ออกไปทานข้าวกันสักมื้อ  ดูหนังสักเรื่อง  หรือทำกิจกรรมโปรดด้วยกัน  แล้วหมั่นหาช่วงเวลาแบบนี้บ่อย ๆ (โดยไม่ลำบากคนอื่นนะครับ) รับรองครับคุณจะเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุดครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว

What can we help you find?